
การพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์เพื่อลดความเสี่ยงต่อคุณภาพชีวิตในยุคสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลง: โอกาสทางธุรกิจขยะอิเล็กทรอนิกส์รีไซเคิล
Abstract
การศึกษาเรื่อง “การพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์เพื่อลดความเสี่ยงต่อคุณภาพชีวิตในยุคสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลง: โอกาสทางธุรกิจขยะอิเล็กทรอนิกส์รีไซเคิล” มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สถานการณ์ และการขับเคลื่อนเทคโนโลยีในการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยและต่างประเทศ 2) ศึกษาและวิเคราะห์นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย 3) ศึกษาและวิเคราะห์โอกาสของการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย (เมื่อเทียบกับต่างประเทศ) และ 4) เพื่อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย ทำการศึกษาโดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Method) ที่เน้นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยการใช้เครื่องมือต่างๆ ในการวิเคราะห์สถานการณ์และการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์จากข้อมูลทุติยภูมิ จากนั้นนำผลการวิจัยเชิงคุณภาพจากการสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายมายืนยัน โดยใช้แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง (Semi-Structured Interview) กลุ่มเป้าหมายผู้ให้สัมภาษณ์ประกอบด้วย: (1) หน่วยงานของรัฐ ได้แก่ กรมโรงงานอุตสาหกรรม (สำนักบริหารการจัดการกากอุตสาหกรรม) กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิล สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ กรุงเทพมหานคร (สำนักสิ่งแวดล้อม และสำนักงานเขตจตุจักร) (2) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (ระยอง ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี) เทศบาลนครนนทบุรี c]t (3) สถานประกอบการเกี่ยวกับการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ (โรงงานลำดับที่ 105 และ 106) จำนวน 4 แห่ง รวมถึงร้านรับซื้อของเก่าในชุมชนเสือใหญ่อุทิศ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
ผลการศึกษาพบว่าในปี พ.ศ. 2562 ขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยโดยส่วนใหญ่มีแหล่งกำเนิดมาจากชุมชนที่เกิดจากการบริโภคของภาคครัวเรือนกว่าร้อยละ 85 ของปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด และมีปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.25 ต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ซึ่งขยะอิเล็กทรอนิกส์ครัวเรือนที่ไม่ใช้งานแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่นำไปขายให้กับธุรกิจรับซื้อของเก่า แต่ขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่ระบบรีไซเคิลน้อย ยิ่งไปกว่านั้นการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเพื่อเพิ่มมูลค่ายิ่งมีสัดส่วนน้อยยิ่งกว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังขาดกฎหมายเฉพาะในการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ แม้ว่าจะมีความพยายามในการผลักดัน พ.ร.บ. การจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และซากผลิตภัณฑ์อื่น แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จในการบังคับใช้ยังขาดการสนับสนุนธุรกิจรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างจริงจัง การเก็บรวบรวมได้ให้อำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการเก็บรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งยังมีข้อจำกัดด้านโครงสร้าง อำนาจ เทคโนโลยี และงบประมาณ ทำให้การรวบรวมขาดประสิทธิภาพและเสถียรภาพ จึงจำเป็นต้องเร่งผลักดันกฎหมายเฉพาะเพื่อจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงสนับสนุนธุรกิจรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างจริงจัง โดยใช้มาตรการทางด้านเศรษฐศาสตร์ และการพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงการสร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ ในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในเรื่องของเทคโนโลยีและโอกาสทางธุรกิจ พบว่า ภาครัฐและเอกชนมีความพยายามพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังไม่สามารถขยายผลได้ในเชิงพาณิชย์อย่างแพร่หลายมากนัก เช่น เทคโนโลยีการสกัดโลหะมีค่าจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นของประเทศไทย และสัดส่วนโลหะพื้นฐานที่สำคัญและพลาสติกที่เป็นส่วนประกอบของเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำมาใช้เป็นแหล่งวัตถุดิบทุติยภูมิ พบว่ามูลค่าที่อาจเกิดขึ้นจากการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน) มีมูลค่าสูงถึงเก้าพันกว่าล้านบาท (9,165,701,106 บาท) นั่นหมายถึงว่าประเทศอาจลดมูลค่าการนำเข้าวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรมได้ถึงเก้าพันกว่าล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้น
หากประเทศไทยจะมีการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับกระบวนการจัดการจากระบบที่เรียกว่าเศรษฐกิจเส้นตรง (Linear Economy) คือ การถลุง ผลิต ทิ้ง และกำจัด ไปสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่วางแผนและออกแบบผลิตภัณฑ์มาเพื่อคืนสภาพหรือให้ชีวิตใหม่แก่วัสดุต่างๆ ในวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ กลับมาสร้างคุณค่า และหมุนเวียนเป็นวงจรต่อเนื่องโดยไม่มีของเสีย ตลอดจนการออกมาตรการ กฎหมาย หรือระเบียบปฏิบัติต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้สอดคล้องกับหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อให้เกิดการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งก่อให้เกิดโอกาสใหม่ของธุรกิจรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ คือ 1) ธุรกิจที่เกี่ยวข้องในกำรจัดกำรขยะอิเล็กทรอนิกส์ในขั้นต้น ได้แก่ (1) ธุรกิจออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ลดการเกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์ และ (2) ธุรกิจรวบรวม คัดแยก รับซื้อขยะอิเล็กทรอนิกส์ 2) ธุรกิจที่เกี่ยวข้องในการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ในขั้นกลาง ได้แก่ ธุรกิจการซ่อมขยะอิเล็กทรอนิกส์เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ และธุรกิจสกัดโลหะมีค่าจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ และ 3) ธุรกิจที่เกี่ยวข้องในการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ในขั้นปลาย ได้แก่ ธุรกิจการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ไปผ่านกระบวนการปรับเปลี่ยนให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยนวัตกรรม และธุรกิจการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีปัจจัยสำคัญคือ การบริหารจัดการเรียกเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการบริหารจัดการ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนและวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของประเทศ และต้องเริ่มจากระบบการคัดแยกขยะที่ถูกวิธีตั้งแต่ต้นทางจนถึงกระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่ในปลายทาง