นวัตกรรมการสร้างสรรค์สื่อเพื่อการสื่อสารการทําบุญตามหลักพระพุทธศาสนาในสื่อสังคมออนไลน์สู่สังคมไทย 4.0


ชื่อโครงการ

นวัตกรรมการสร้างสรรค์สื่อเพื่อการสื่อสารการทําบุญตามหลักพระพุทธศาสนาในสื่อสังคมออนไลน์สู่สังคมไทย 4.0

คำสำคัญ

นวัตกรรม การสื่อสาร หลักพระพุทธศาสนา สังคมไทย 4.0

ผู้แต่ง

อาจารย์ ดร.วิเชียร ลัทธิพงศ์พันธ์
อาจารย์ ดร.ปุณฑริกา รวิกุล


สถิติการเปิดชม

สถิติการดาวน์โหลด


บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพที่มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ ข้อ 1) ศึกษาเนื้อหาของสื่อที่ส่งเสริม และ/หรือบิดเบือนความรู้ความเข้าใจในการทำบุญตามหลักพระพุทธศาสนาของพุทธศาสนิกชนชาวไทย บนสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กแฟนเพจ (Facebook Fan Page) และ ข้อ 2) เพื่อนำเสนอหลักแนวคิด สำหรับการผลิตสื่อสร้างสรรคYที่สามารถสื่อสารเนื้อหาการทำบุญตามหลักพระพุทธศาสนาสู่ พุทธศาสนิกชนชาวไทยบนสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กแฟนเพจ (Facebook Fan Page)

ภายใต้วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 ผู้วิจัยได้ทำการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างเพื่อการศึกษา ที่เป็นผู้ส่งสารที่ เป็นเจ้าของสื่อที่สื่อสารสารเนื้อหาการทำบุญบนสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กแฟนเพจ (Facebook Fan Page) ในเขตกรุงเทพมหานคร ที่มีจำนวนผู้ติดตามตั้งแตD 5,000 คนขึ้นไป ประกอบไปด้วย 1) วัด ธรรม ยุติ วัดมหานิกาย และ หรือ สถานปฏิบัติธรรมในกรุงเทพมหานคร จำนวน 6 ราย และ 2) สำนักปฏิบัติ ธรรม จำนวน 4 ราย จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และสังเคราะห์ผ่านมิติของสัญวิทยา (Semiology) พบว่า เนื้อหาการทำบุญบนเฟซบุ๊กแฟนเพจ (Facebook Fan Page) ที่ถูกนำเสนอโดยผู้ส่งสารที่กล่าว ข้างต้นนั้น มีความสอดคล้องกับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยมากเป็นการสื่อสารในรูปแบบ “กิจกรรมการทำบุญ” (Medium) ในรูปแบบต่าง ๆ ที่ส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนมีความระลึกถึง (Index) วันสำคัญทางศาสนาและการสร้างขวัญกำลังใจในการดำรงชีวิตทางโลก แต่ยังไม่สามารถที่จะสร้างให้ผู้รับ สารเกิดความรู้และความเข้าใจหลักคำสอน (Message/Content) ของพระพุทธเจ้าผ่านกิจกรรมการ ทำบุญเหล้านั้นได้ ผู้วิจัยยังพบอีกว่า กิจกรรมการทำบุญ “สวดนพเคราะห์” เป็นกิจกรรมเดียวที่ปรากฏ บนสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กแฟนเพจที่มีนัยยะการสื่อสารในมิติของความคาดหวังของการเกิดปาฏิหาริย์ จากการดลบันดาลของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งปนเปื้อนในกิจกรรมการทำบุญซึ่งได้รับ อิทธิพลจาก อัญญเดียรถีย์อื่น ซึ่งไม่สอดคล้องกับหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาที่ให้เชื่อเรื่องกฎแห่ง กรรม

ภายใต้วัตถุประสงค์ข้อที่ 2 ผู้วิจัยค้นพบหลักเกณฑ์ที่สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการผลิตสื่อ เพื่อสื่อสารเนื้อหาการทำบุญตามหลักพระพุทธศาสนาต่อพุทธศาสนิกชนชาวไทยภายใต้กรอบศาสนบันเทิง (Religious-tainment) ผ่านกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking Process) จากกลุ่ม ตัวอย่างจำนวนมากกว่า 1,400 คน ที่ได้เข้าร่วมปฏิสัมพันธ์กับสื่อออนไลน์ต้นแบบประเภทควิช “คนไทย ทำบุญ” ผ่านความบันเทิง (Religious-tainment) ใน 3 มิติของการสื่อสาร มิติที่ 1 การคัดกรองเนื้อหา และการอ้างอิงแหล่งข้อมูล เนื้อหาที่นำมาใช้ในการผลิตสื่อควรสะท้อนให้เห็นถึงขอบเขตและความ เชื่อมโยงของการทำบุญกับเป้าหมายของพระพุทธศาสนาอย่างชัดเจน แจ่มแจ้ง และไม่คลุมเครือ ที่มี ความแตกต่างจากลัทธิความเชื่ออื่น ๆ และชี้แจงที่มาของเนื้อหาเพื่อนำไปสู่การศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมได้ มิติที่ 2 สื่อสารด้วยภาษาและช่องทางการสื่อสารที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้รับสารในยุคสมัยปัจจุบัน ใช้ภาษา (ภาพ เสียง ตัวอักษร) ปัจจุบันที่สามารถเข้าใจได้ง่ายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของพุทธศาสนิกชนชาวไทยในสังคมยุคดิจิทัล ซึ่งสามารถช่วยลดช่องว่างและจุดอ่อนของสื่อดั้งเดิมใน พระพุทธศาสนา และหลีกเลี่ยงการใช้สำนวนภาษาที่เข้าใจได้ยากไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย ทั้งนี้คงไว้ซึ่ง หลักดั้งเดิมของพระพุทธศาสนา (แก่น) แต่สื่อสารด้วยสัญญะทางภาษา (เปลือก) และมิติที่ 3 การ สร้างสรรค์กลยุทธ์การสื่อสารที่กระตุ้นให้เกิดการอยากมีส่วนร่วมโดยการแสดงผลลัพธ์ของการมีปฏิสัมพันธ์ของผู้รับสารกับสื่อ บุคคลโดยทั่วไปมักมีความสนใจในตนเองเป็นที่ตั้งเสมอ การใช้คำโปรยที่มี นัยยะเชิงท้าทายจะสามารถดึงดูดและกระตุ้นให้เกิดความอยากรู้ถึงผลลัพธ์ของตนเองจากการร่วม ปฏิสัมพันธ์กับสื่อ อันส่งผลทางอ้อมให้ผู้รับสารได้รับความบันเทิงในขณะเดียวกันก็สามารถเกิดการเรียนรู้ เนื้อหาผ่านการมีส่วนร่วมนี้ด้วยความสมัครใจของตนเอง